Tuesday, 28 March 2023

ชูวิทย์ เปิดเอกสารลับ ดีเอสไอ ใครเป็นผู้ริเริ่มเรื่องฉาว บ้านกงสุลนาอูรู ปลอม

ชูวิทย์เปิดเอกสารลับ ดีเอสไอ กับ ตำรวจ ใครเป็นคนที่มีความคิดริเริ่มเรื่องฉาว บ้านกงสุลนาอูรูปลอม ที่สาทร

วันที่ 19 มกราคม 2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองโด่งดัง โพสต์เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเอกสารลับ ดีเอสไอ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ผู้คนสงสัย ว่างานนี้เริ่มจากไหน? ระหว่างดีเอสไอ กับตำรวจ ใครเป็นผู้เริ่มเรื่องฉาว ที่บ้านกงสุลนาอูรูปลอม ที่สาทร เพราะว่ากลายเป็นเรื่องแผลงฤทธิ์ของจีนเทา
ตบท้ายมีการ อมเงินของกลาง และปล่อยตัวจีนเทาไป โดยมีเงินตกร่วงไปเกือบ 10 ล้าน ผมได้นำคลิปเปิดเปิดเผย ให้มองเห็นเสมอเหมือนหนึ่งนั่งอยู่ในเหตุการณ์

หลังจากนั้นมีการโยน กันไปมา ระหว่างดีเอสไอ กับตำรวจ เอกสารที่โพสต์เป็น “รายงานลับ ที่หัวหน้าชุดดีเอสไอ ได้รายงานถึงอธิบดี” เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง การตรวจหา ว่าเงินของกลาง ที่หายไป ตอนยึดไม่ได้ถือว่ามีเท่าไหร่ เอาใส่ถุงแล้วนำส่ง สน.ทุ่งมหาเฆม เลย

(โยนความผิดไปให้ตำรวจ 191 เพราะว่าดีเอสไอไม่ได้ขอหมายค้น แต่เป็นตำรวจที่ขอหมายค้น ดีเอสไอยังไม่ได้ลงรับ เป็นคดีพิเศษ จึงไม่มีหน้าที่โดยตรง ไม่ได้เป็นผู้ตรวจนับ และก็เซ็นเอกสารการนับเงิน)

เปิดเอกสารลับ ดีเอสไอ

กรณีการขอหมายค้นเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ชี้แจงว่า

ถ้ารอรับเป็นคดีความพิเศษ จะไม่ทันการณ์ ผู้ต้องหาจะหนี จึงได้ประสานตำรวจ 191 เป็นการเร่งด่วน เพื่อให้ขอหมายค้น บ้านดังกล่าว (แสดงว่าเรื่องเริ่มจากดีเอสไอก่อน แล้วก็แทนที่กลัวผู้ต้องหาจะหลบหนี แต่กลับปล่อยหนีไปหมดเสียเอง) ท่านอธิบดีดีเอสไอ คงดีใจที่ถูกเด้ง เพราะเหตุว่าหน่วยงานดีเอสไอ ในระยะหลังมีแต่ข่าวสารฉาวมาเป็นระยะๆ

คงเป็นเนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่ มาจากร้อยพ่อพันแม่ ต่างคนต่างมา จึงไม่มีใครคุมใครได้ และก็แต่ละเรื่อง วงเงินไม่ใช่น้อย แบบเดียวกับ ปปง. ท่านอธิบดีจึง ถูกเด้งเซ่นเรื่องจีนเทาไปอีกคนส่งท้าย

อสส.สั่งฟ้อง ตู้ห่าวกับพวก ทุนจีนสีเทารวม 41 คน ข้อหาค้ายา-ฟอกเงิน-อั้งยี่ฯ

“นารี” อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง ตู้ห่าว กับพวกทุนจีนสีเทารวม 41 ราย นำคำฟ้อง 332 หน้ายื่นต่อศาลอาญา กรุงเทพใต้ หลายข้อหาหนัก ค้ายา-ฟอกเงิน-อั้งยี่-อาชญากรรมข้ามชาติโทษ สูงสุดประหารชีวิต

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นักข่าวรายงานว่า ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนการสอบสวนคดี นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว กับพวก
จากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 66 รวมทั้ง อัยการสูงสุดได้พิจารณา สำนวนการสอบสวนคดี ดังกล่าวแล้ว นั้น

เปิดเอกสารลับ

เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 66 น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด

ก็เลยได้มีคำสั่งฟ้อง นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว กับพวก รวม 41 ราย ในความผิดฐานร่วมมือ
โดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดรุนแรงเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และประเภท 4 โดยกระทำการในลักษณะ
เป็นการกระทำขององค์กรอาชญากรรม, ร่วมกันจำหน่ายโดยมีไว้เพื่อจำหน่าย ยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจาย ในกลุ่มประชาชน
รวมทั้ง โดยมีอาวุธปืนทำให้เกิดผลกระทบ ต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน, ด้วยกันจำหน่ายโดยมีไว้เพื่อจำหน่าย วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และประเภท 4
โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและก็โดยมีอาวุธปืนทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน,
สมคบคิดโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และด้วยกันฟอกเงิน, เป็นอั้งยี่ มีส่วนร่วมในองค์กร อาชญากรรมข้ามชาติ
โดยเป็นสมาชิกหรือเครือข่ายทำงาน ขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยร่วมมือกันตั้งแต่สองคน ขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดรุนแรง
เกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับเอกสารสิทธิ์,
ร่วมกันรับคนต่างด้าวทำงานโดย คนต่างด้าวไม่มีเอกสารสิทธิ์ให้ทำงาน โดยฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น
หรือช่วยด้วยประการใดๆก็ตามให้คนต่างด้าวที่เข้าเมือง โดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับตัว

รวมทั้งในวันนี้ (19 มกราคม 2566) เวลา 15.00 น. อัยการสูงสุดได้มอบหมาย ให้สำนักงานคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด นำคำฟ้อง จำนวน 332 หน้า ไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้
แล้วก็แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี มาส่งฟ้องต่อศาลภายในอายุความตามกฎหมายต่อไป

ดีเอสไอ ตู้ห่าว

นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด

เปิดเผยว่า น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้องศาล นายชัยณัฐร์ หรือตู้ห่าว เมื่อวันที่ 18 ม.ค.2566 ฟ้องนายตู้ห่าวกับพวกรวม 41 ราย ส่งสำนวนให้อธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด นายจรูญ ธีรนานนท์ แล้วก็ในวันที่ 19 ม.ค.วันนี้สำนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด4 ได้นำคำฟ้องไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ เป็นคดีความหมายเลข ย 87 / 2566 เชลย 23 ราย ส่วนที่เหลือดำเนินการตามกฎหมายเพื่อให้ได้ตัวมาฟ้องร้องต่อไป

รองโฆษก สำนักงานอัยการสูงสุดกล่าวเหตุว่า โดยมีคำฟ้องรวม 332 หน้าเอกสารท้ายฟ้องอีก 35 แผ่น และอัยการสูงสุดได้มีคำสั่ง ที่ 86/66 ตั้งคณะทำงานในการดำเนินคดีต่อไปด้วย
ซึ่งคดีนี้ อัยการสูงสุดได้ลงมาช่วยคณะทำงานทำงานทุกวัน หากแม้ในวันเสาร์-วันอาทิตย์ โดยไม่มีวันหยุดแล้วท่านยังติดตามความคืบหน้าในทุกระยะ และดูแลการบริหารงานคดีให้เป็นไปตามกำหนดเวลา
ตามกฎหมายได้ทัน สำหรับข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดนั้นมีอัตราโทษสูงสุดถึงประหารชีวิตและก็มีอายุความ 30 ปี.